คอลลาเจน มีส่วนช่วยบำรุงข้อเข่าได้อย่างไร

            คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีการรวมตัวของกรดอะมิโน (Amino acid) หลายชนิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น ผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ ขน ผม เล็บ และเนื้อเยื่อ มีส่วนสำคัญในการทำให้ร่างกายทุกส่วนทำงานอย่างเป็นปกติ โดยเฉพาะข้อเข่า ข้อต่อ และกระดูกอ่อน ซึ่งมีคอลลาเจนคอยทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่น แข็งแรง ส่งผลให้เคลื่อนไหวได้ไม่ติดขัด สามารถทำกิจวัตรประจำวัน และกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
            ข้อเข่า เป็นอวัยวะหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเมื่อร่างกายขาดคอลลาเจน เนื่องจากข้อเข่ามีส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวและการทำกิจกรรมต่างๆ หากข้อเข่ามีอาการตึง ไม่ยืดหยุ่น ไม่กระชับ หลวม มีอาการเข่าลั่น เสียงดังก๊อบแก๊บ อาจเป็นอุปสรรคที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก
การดูแลข้อเข่าไม่ให้เกิดอาการดังกล่าวและป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร มีหลายวิธี ดังนี้
        1. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายข้อเข่า เช่น การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป การนั่งงอเข่า ขัดสมาธิ พับเพียบ นั่งยองๆ เป็นประจำ การใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานานๆ เป็นต้น
        2. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำลายคอลลาเจน เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล อาหารที่มีไขมันสูง อาการประเภทปิ้งย่าง การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การถูกแสงแดดและรังสี UV เป็นประจำ หลีกเลี่ยงภาวะวิตกกังวลและความเครียด
        3. เพิ่มคอลลาเจนให้ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีคอลลาเจน วิตามินซี ทองแดง สังกะสี ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้ อาหารที่ควรรับประทานเพิ่มเสริมคอลลาเจน เช่น นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว ไข่ขาว เห็ด หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาดขาว เนื้อสัตว์ หนังสัตว์ เจลาติน น้ำต้มกระดูก ผลไม้ตระกูลส้ม มะละกอ พริกหวาน บล็อกโคลี่ คะน้า ปวยเล้ง เครื่องในสัตว์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดงา อาหารทะเลเปลือกแข็ง เช่น หอย กุ้ง ปู เป็นต้น
คอลลาเจนมีส่วนช่วยบำรุงข้อเข่าได้อย่างไร
          คอลลาเจนในร่างกายมีหลายชนิดหรือหลาย Type ทำหน้าที่แตกต่างกันไป แต่คอลลาเจนที่สำคัญและควรทำความรู้จัก มี 6 ชนิด ดังนี้
คอลลาเจน ชนิดที่ 1 (Collagen Type I) พบมากที่ผิวหนัง กระดูก เส้นเอ็น
คอลลาเจน ชนิดที่ 2 (Collagen Type II)  พบมากที่ข้อต่อ กระดูกอ่อน กระดูกซี่โครง
คอลลาเจน ชนิดที่ 3 (Collagen Type III) พบมากที่ผิวหนัง กล้ามเนื้อ ผนังหลอดเลือด 
คอลลาเจน ชนิดที่ 4 (Collagen Type IV) พบมากที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า และเซลล์ที่เป็นฐานของผิว
คอลลาเจน ชนิดที่ 5 (Collagen Type V)  พบมากที่เส้นผมและรก
คอลลาเจน ชนิดที่ 10 (Collagen Type X) พบมากที่ข้อต่อ กระดูกอ่อน แต่เป็นคนละชนิดกับชนิดที่ 2


        จะเห็นได้ว่า คอลลาเจนที่มีส่วนช่วยบำรุงข้อเข่านั้น จะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 2 ซึ่งช่วยเสริมคอลลาเจนในข้อต่อและกระดูกอ่อน ส่วนประกอบที่สำคัญของข้อเข่า รวมถึงช่วยเพิ่มระดับกรดไฮยาลูรอนิค ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ มีส่วนช่วยยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ที่ย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงข้อ จึงมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกข้อเข่า
        ดังนั้น เมื่อเรารับประทานคอลลาเจนเปปไทด์ ร่างกายก็จะย่อยไปเป็นกรดอะมิโนเพื่อให้สามารถดูดซึมผ่านลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดและเดินทางไปทั่วร่างกาย จนไปถึงเซลล์ไฟโบรบลาสท์ (fibroblast) ซึ่งเซลล์เหล่านี้จะใช้กรดอะมิโนในการสร้างโปรตีนคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เพื่อสะสมที่กระดูกอ่อน
           โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นคอลลาเจนสายสั้นอย่าง มารีน คอลลาเจน ไฮโดรไลซ์ ซึ่งเป็นคอลลาเจนสายสั้นที่ใช้วิธีไฮโดรไลเซตสกัดจากส่วนต่างๆ ของปลาทะเลด้วยแล้ว ก็ยิ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น เนื่ิองจากโมเลกุลที่มีขนาดเล็กมาก สามารถแทรกซึมสู่เซลล์กระดูกอ่อน ข้อต่อ โดยเฉพาะข้อเข่าได้อย่างทั่วถึง
        คอลลาเจน เปปไทด์ และ มารีน คอลลาเจน ไฮโดรไลซ์ จึงมีส่วนช่วยเรื่องข้อเข่า ข้อต่อต่างๆ และมีส่วนช่วยเพิ่มน้ำเลี้ยงข้อเข่า เสริมสร้างเซลล์กระดูกอ่อนให้แข็งแรง ยืดหยุ่น เพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นเอ็น เนื้อเยื่อโดยรอบ และดูแลข้อเข่าจากอาการตึง ติดขัด ปวด ให้ดีขึ้นได้
           
>> ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ คลิก 
https://www.positifthailand.com/product-story/supplements-food-collections/positif-collagen-t2t2.html
>>สนใจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Positif Collagen จากประเทศญี่ปุ่น คลิก
 https://www.positifthailand.com/products/supplement?Collection[]=t2s2