อายุ 15 - 18 ปีควรเน้นการบำรุงเพื่อความชุ่มชื้น
อายุ 19 - 25 ปี ควรเน้นบำรุงเพื่อความชุ่มชื้นและกระจ่างใส
อายุ 25 - 27 ปี ควรเน้นการบำรุงความชุ่มชื่น กระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ลดรูขุมขน
อายุ 28 - 29 ปี ควรเน้นบำรุงความชุ่มชื้น กระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ลดรูขุมขนที่กว้างขึ้น
อายุ 30 ขึ้นไป จะเริ่มมีปัญหาริ้วรอย เน้นลดเลือนริ้วรอยและผิวเรียบเนียน
อย่างไรก็ตามไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวว่าอายุเท่าไหร่จึงควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันริ้วรอย ข้อมูลข้างต้นเป็นแค่การประมาณการณ์ แต่ควรดูแลผิวหน้าให้ดีที่สุด เน้นการป้องกัน และบำรุงรักษาให้สภาพผิวดีอยู่เสมอ จะทำให้หลีกเลี่ยงริ้วรอยที่จะมาเยือนได้ดีที่สุด และหมั่นสังเกตผิวตัวเอง เมื่อเริ่มมีริ้วรอยแรกเริ่มมาเยือน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
ควรรับประทานผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายให้เพียงพอจะทำให้ร่างกายสามารถนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทานเข้าไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น
โดยวิตามินซีจากแหล่งธรรมชาติที่ดีที่สุด คือ วิตามินซีที่สกัดจากผลของอะเซโรล่า เชอร์รี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ขจัดโมเลกุลที่ถูกทำลาย มีส่วนช่วยป้องกันการเสื่อมตัวของเซลล์ ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นสำหรับเนื้อเยื้อผิวหนังและข้อต่อกระดูก รวมทั้งบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน สดใสเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ
- มีการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นเรื่องพื้นฐานที่จำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจ ผลิตภัณฑ์ที่จะเข้าสู่ร่างกายควรได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก อย.
- ผลิตจากแหล่งที่มีมาตรฐานน่าเชื่อถือ
- ผลิตจากวัตถุดิบที่สามารถดูดซึมได้ง่าย ซึ่งคอลลาเจนชนิดที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายที่สุดคือ คอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเล ที่สำคัญควรเลือกคอลลาเจนแบบที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เพราะร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
- ส่วนประกอบอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใส่เพิ่ม ช่วยการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และให้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น อย่างเช่น วิตามินซี เป็นต้น
ในแง่ของประโยชน์ต่อผิวนั้น ไฮยาลูรอนิค แอซิด จะช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวจะมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น เรียบตึง กระชับขึ้น
- อ่อนโยน ไม่ทำร้ายหนังศีรษะของเราจนเกินไป เพราะถ้าหากใช้แชมพูที่รุนแรงเกินไป จะทำให้หนังศีรษะพองตัว รูขุมขนเปิดกว้าง เป็นอันตรายต่อผิวหนัง และยังทำให้เส้นผมแตกปลายอีกด้วยค่ะ
- เลือกแชมพูที่มีค่า pH เป็นกลาง ไม่มีความเป็นกรดหรือด่างจนเกินไป เพราะจะได้รักษาความสมดุลของความชุ่มชื่นของเส้นผมด้วย
- อย่าลืมบำรุงผมด้วยคอนดิชันเนอร์ และแฮร์เซรั่ม เพื่อเป็นการเคลือบปิดเกล็ดเส้นผม
- หากใครอยากจะประหยัดเวลาก็สามารถใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของคอนดิชันเนอร์ได้เลยก็สะดวกไม่น้อยนะคะ